ลิเวอร์พูล ยังไม่สามารถควานหาชัยชนะในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ได้เลย หลังแมตช์สองทำได้เพียงเปิดรังแอนฟิลด์ เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 เมื่อวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้ ดาร์วิน นูนเญซ ทำเรื่องจนได้เมื่อโดนยั่วจนสติหลุดเล่นนอกเกมนำไปสู่การโดนใบแดง แต่ยังดีที่เจ้าบ้านมี หลุยส์ ดิอาซ ที่โชว์เพลงแข้งสุดสะเด่าซัดตีเสมออย่างงามให้ทัพ “หงส์แดง” งานนี้ในเกม “แดงเดือด” เยือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งสองทีมคงต้องสู้ถวายหัวเพื่อหวังคว้าชัยเกมแรกให้ได้
ตัวจริง
อลีสซง เบ็คเกอร์ : 6
แทบไม่ต้องทำงานหนักอะไรเลย เนื่องจาก พาเลซ เล่นเกมตั้งรับรอสวนกลับ ส่วนลูกแรกหมดสิทธิ์ป้องกันจริงๆ นอกจากนี้ยังปฏิเสธลูกยิงของ ซาฮา ช่วยให้ทีมไม่ตามหลังสองประตู
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 7
เล่นเกมรับได้ดีขึ้นกว่าแมตช์กับ ฟูแล่ม แต่น่าเสียดายที่ประสิทธิภาพในการเปิดบอลทางริมเส้นไม่ค่อยเฉียบคม มีส่วนในการกดดันแผงหลัง พาเลซ จากการเติมเกมบุกทางฝั่งขวา
นาธาเนียล ฟิลลิปส์ : 4
ช่วงแรกเล่นพอใช้ได้ แต่พอนานๆ ไปเริ่มออกลูกโฉ่งฉ่าง ไม่สามารถรับมือกับความเร็วของ หลุยส์ ซาฮา แถมเช็คล้ำหน้าพลาดจนเป็นเหตุให้เสียประตู ครึ่งหลังอาการหนักสกัดมั่วซัวสุดท้ายต้องเปลี่ยนตัวออกไม่งั้นอาจทำให้ทีมเสียหายมากกว่านี้
เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ : 6
ยังคงเป็นที่พึ่งในเกมรับของ ลิเวอร์พูล ได้เสมอ แม้จะมีอยู่จังหวะหนึ่งที่เช็คล้ำหน้าพลาดไปนิดในครึ่งแรก ส่วนที่เหลือเล่นได้ดีแต่ยังไม่ถึงที่สุด
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : 5
ช่วงแรกมีโอกาสได้ยิงประตูแต่ติดบล็อก นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีอะไรที่น่าจดจำ โดยเฉพาเกมบุกที่เคยเป็นจุดเด่นแต่กลับไร้ประสิทธิภาพในแมตช์นี้
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ : 7
เป็นดาวรุ่งที่กล้าเล่น พร้อมบู๊ทุกจังหวะ พยายามสร้างโอกาสให้กับทีม นอกจากนี้ยังมีความเร็วในการวิ่งทะลุทะลวงเข้าไปในเขตโทษ “ดิ อีเกิ้ลส์”
ฟาบินโญ่ : 5
พลาดมหันต์ในจังหวะที่เบียดกับ เอเบเรซี่ เอเซ่ จนนำไปสู่การเสียประตู ครึ่งหลังพยายามเชื่อมเกมรุกแต่ขาดความแม่นยำในการผ่านบอล
เจมส์ มิลเนอร์ : 6
ต้นเกมเกือบทำประตูให้ทีมขึ้นนำ พร้อมเข้าบอลหนักแบบไม่กลัวเจ็บ แต่อายุที่มากทำให้สู้กับความสดของแข้งทีมเยือนไม่ค่อยไหว
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : 7
เจอความยากลำบากจากการที่ทีมเยือนตั้งใจตัดเขาออกจากเกม แต่ยังสามารถหาโอกาสเข้าไปทำประตูได้เป็นครั้งคราว ความสามารถเฉพาะและความเร็วยังคงอันตรายอยู่เสมอ
ดาร์วิน นูนเญซ : 3
ครึ่งแรกมีส่วนร่วมกับทีมน้อยมาก แต่เกือบตีเสมอให้ทีมได้ในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก สำหรับครึ่งหลังมีโอกาสยิงประตูแต่ยังขาดความเฉียบคม ที่สำคัญยังตบะแตกจนโดนใบแดง
หลุยส์ ดิอาซ : 9
มีส่วนในการสร้างเกมรุกให้กับทีมตลอดเวลา โชว์ลีลากระชากลากเลื้อยก่อนจะตะบันประตูสุดสวยตีเสมอให้ทีม พยายามใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการเรียกฟาวล์ได้หลายครั้ง
ตัวสำรองที่ได้ลงสนาม
คอสตาส ซิมิคาส (แทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น. 63) : 6
ลงมาสร้างความหวือหวาพอสมควรจากจังหวะการเปิดบอล แต่ยังไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (แทน เจมส์ มิลเนอร์ น. 63) : 6
ทำให้แดนกลางของ ลิเวอร์พูล แข็งแกร่งมากขึ้น คุมจังหวะเกมได้ดี พยายามกระตุ้นเพื่อนร่วมให้เล่นเกมบุกแม้จะมีตัวผู้เล่นเป็นรองก็ตาม
ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ (แทน ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ น. 63) : 6
เกือบมีชื่อทำประตูจากจังหวะวอลเลย์บริเวณกรอบเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว มีจังหวะปั่นป่วนเกมรับ พาเลซ ได้บ่อยๆ แต่ข้อเสียชอบเล่นยากไปนิดจนทำให้ทีมโดนตัดบอลง่ายๆ
